รถกระบะเชิงพาณิชย์ต้องใช้งานหนัก ทั้งบรรทุกและวิ่งระยะไกล การตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยลดโอกาสเสียกลางทางและยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างมาก บทความนี้สรุปขั้นตอนที่เจ้าของรถสามารถทำเองได้ง่ายๆ ก่อนนำรถลงงานทุกวัน

สัญญาณเตือนเครื่องยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม

• สตาร์ทยาก หรือรอบเดินเบาไม่นิ่ง
• มีควันดำ/ควันขาวมากผิดปกติ
• อุณหภูมิเครื่องยนต์สูงบ่อย
• กินน้ำมันมากขึ้นแบบผิดสังเกต
• เสียงเครื่องดังหรือมีเสียงโลหะกระทบ

เช็กลิสต์ตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น

การตรวจของเหลวสำคัญในเครื่องยนต์

1. น้ำหล่อเย็น (Coolant)

ตรวจจากหม้อพักน้ำ ต้องมีระดับพอเหมาะ สีใส ไม่ขุ่น หากลดเร็วกว่าปกติอาจมีการรั่วที่ปั๊มน้ำ หม้อน้ำ หรือท่อยาง

2. น้ำมันเบรก

ต้องอยู่ในระดับที่กำหนด หากลดลงมากควรตรวจคาลิปเปอร์ ท่อยาง และแม่ปั๊มเบรก

3. น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ (ถ้ามี)

ระดับต้องไม่ต่ำ สีไม่ดำหรือมีเศษโลหะ

4. น้ำมันเกียร์/น้ำมันเฟืองท้าย

สำหรับรถใช้งานหนักควรตรวจตามระยะ ช่วยยืดอายุระบบขับเคลื่อน

ฟังเสียงและดูอาการสั่นผิดปกติ

• เสียงเขก “แต๊กๆ” อาจบ่งบอกการจุดระเบิดผิดจังหวะ
• เสียงหอนจากเทอร์โบควรให้ช่างตรวจทันที
• แรงสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยหรือแชสซีส์อาจมาจากแท่นเครื่องเสื่อม

ทริกดูแลเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งานงานบรรทุก

• อุ่นเครื่องก่อนใช้งาน 1–2 นาที ช่วยลดการสึกหรอ
• ตรวจยางและลมยางเพื่อป้องกันกำลังตกและเครื่องทำงานหนักเกิน
• หลีกเลี่ยงการเร่งรอบสูงต่อเนื่องโดยไม่จำเป็น
• ตรวจไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นในพื้นที่ฝุ่นเยอะ

FAQ คำถามพบบ่อย

ควรเช็คเครื่องยนต์บ่อยแค่ไหน?

ควรเช็คเบื้องต้นสัปดาห์ละครั้ง หรือก่อนนำรถไปบรรทุกหนัก

มีควันดำเยอะเกิดจากอะไร?

มักเกิดจากไส้กรองอากาศตัน หัวฉีดสกปรก หรือการจ่ายน้ำมันไม่สมดุล

สตาร์ตรถแล้วรอบไม่นิ่งต้องทำอย่างไร?

ตรวจระบบไอดี ท่อสุญญากาศ และทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ

รถกระบะแรงตกต้องเช็คจุดไหนก่อน?

ไส้กรองอากาศ เทอร์โบ เบอร์น้ำมันเครื่อง และหัวฉีด

เสียงดังจากเครื่องยนต์ควรให้ช่างดูไหม?

หากเป็นเสียงโลหะกระทบ แนะนำให้ตรวจทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย